ศึกยูโร 2020 นัดส่งท้าย รอบแรก กลุ่ม E ที่สนามลา การ์ตูฆา ประเทศสเปน เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทีมชาติสเปน ที่เก็บได้เพียง 2 คะแนนจากการลงเล่น 2 นัด ลงสนามชี้ชะตากับ สโลวาเกีย ที่มี 3 คะแนน

ครึ่งแรก สเปน ลุยหนัก และเกือบขึ้นนำก่อนเมื่อได้จุดโทษในนาทีที่ 12 แต่ อัลบาโร โมราตา ยิงไปติดเซฟของ มาร์ติน ดูบราฟกา นายทวารสโลวาเกีย อย่างน่าเสียดาย จากนั้นนาทีที่ 30 ดูบราฟกา ก็เปลี่ยนจากฮีโร่เป็นซีโร่เมื่อปัดบอลพลาดบอลหลุดเข้าประตูตัวเองส่งให้ กระทิงดุ ขึ้นนำแบบโชคช่วย 1-0 ต่อมาในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+3 เอ็มเมอริก ลาปอร์กต์ จึงดันขึ้นมาโขกให้ สเปน หนีไปเป็น 2-0 ได้สำเร็จ โดยที่ ขุนพลสโลวัก ยังไม่มีโอกาสลุ้นประตูแม้แต่ครั้งเดียว

สเปน

ครึ่งหลังยังเป็น สเปน ที่เปิดฉากบุกแบบวันเวย์ ก่อนจะขยับนำเป็น 3-0 จาก ปาโบล ซาราเบีย นาทีที่ 56 เท่านั้นยังไม่พอนาทีที่ 67  ลา โรฆา  ฉีกหนีห่าง 4-0 จากลูกยิงไขว้หลังของ เฟร์ราน ตอร์เรส ต่อมานาทีที่ 71 ตาข่ายของ สโลวาเกีย ก็สะเทือนอีกรอบ เมื่อ ยูราย คุชกา สกัดบอลเข้าประตูตัวเองส่งให้เจ้าถิ่นออกนำไกลสุดกู่ 5-0 จากนั้นไม่มีใครทำอะไรกันได้อีกจบเกม สเปน ถล่ม สโลวาเกีย 5-0 มี 5 คะแนนจาก 3 นัด คว้าอันดับ 2 ของกลุ่ม E โดยจะผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายไปพบกับ โครเอเชีย ในวันจันทร์หน้าต่อไป ส่วน สโลวาเกีย มี 3 คะแนนรั้งอันดับ 3 ตกรอบเรียบร้อย

ส่วนผลอีกคู่ สวีเดน แซงเชือด โปลแลนด์ คว้าแชมป์กลุ่ม

สวีเดน

ทีมชาติสวีเดน โชว์ลูกฮึดไล่แซงเชือด โปแลนด์ ช่วงทดเจ็บ 3-2 ลอยลำผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม E โดยขุนพลไวกิงส์นำก่อน 2-0 จาก เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ที่เหมา 2 ตุงในนาทีที่ 2 กับ 59 แต่ โปแลนด์ ไม่ยอมไล่ตามตีเสมอเป็น 2-2 จากการซัดเบิ้ลของ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี นาทีที่ 61 และ 84 กระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+4 สวีเดน จึงแซงเข้าวินได้สำเร็จจากประตูชัยของ วิคตอร์ แคลส์สัน จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ สวีเดน มี 7 คะแนนจาก 3 นัด เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม E ส่วน โปแลนด์ มี 2 แต้มกระเด็นตกรอบในฐานะทีมบ๊วย

สวีเดน