ไม่ต้องสงสัยเลยว่าฟุต บอลโลก 2022 ที่ กาตาร์ จะเป็นฝันร้าย,ความอัปยศโสมมของวงการลูกหนังที่จะถูกหยิบยกมาพูดถึงชั่วลูกชั่วหลาน
เพราะบัดนี้เหลืออีก 10 วันบรรยากาศ บอลโลก และความตื่นเต้นเงียบเหงาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
เพลงประจำทัวร์นาเมนท์แทบไม่เข้าหู, กิจกรรมทายผลรวมถึงอีเว้นท์ต่างๆในเมืองไทยมีที่ไหนบ้าง เท่าที่จำความได้เราไม่เคยอยู่ในสภาวะเช่นนี้มาก่อน
ยิ่งประเด็นร้อนๆกับเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกตอกย้ำความ “อดสู” และน่า “สมเพช” หนักเข้าไปอีกเมื่อรัฐบาลผู้ที่ไม่เข้าใจกลไกลธุรกิจออกกฏ “must have”
จนได้ข่าวว่าอาจต้องควักเนื้อเจ็บตัวจากเดิมที่ ฟึฟ่า เคยตั้งราคาขายลิขสิทธิ์ไว้ที่ 880 ล้านบาทเมื่อเดือนมิถุนายน (ข่าวจากเรื่องเล่าเช้านี้) แต่ตอนนี้ทะลุ 1,600 ล้านเข้าแล้ว
เสียค่าโง่ซ้ำซ้อนไร้สมองเป็น “ยีนเด่น” ของผู้บริหารในยุคนี้จริงๆ
การจัดการแข่งขันในช่วงเวลาพิสดารเดือนพฤศจิกายนในระหว่างที่บอลลีกกำลังโม่แข้งกันอยู่และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ 92 ปีนับตั้งแต่ปี 1930 สร้างปัญหาและด้อยค่ารายการนี้อย่างหนัก
อาการบาดเจ็บของนักเตะแต่ละคนหากกินระยะเวลาซักเดือนนึงเท่ากับว่ารูดม่านฟุตบอลโลกทันที
ล่าสุดว่ากันว่า ซาดิโอ มาเน่ ฟิตไม่ทันไปอีกคน ช่วย เซเนกัล ห้ำหั่นกับ อิยิปต์ ของ โม ซาลาห์ แทบตายสุดท้ายตามไปอีกคน
นักเตะอายุน้อยพลาดหนนี้ยังพอมีโอกาสแก้ตัวอีก 4 ปีแต่พวกที่อายุ 30+ ร้องไห้กันเป็นแถว
ผิดกับการ kick off ช่วงซัมเมอร์ที่มันดีตรงที่ว่าต่อให้คุณบู๊สะบั้นหั่นแหลกยามเล่นกับสโมสรแล้วเกิดเจ็บหนักเช่นแฮมสตริงก็ยังมีเบาะรองรับอีกเป็นเดือนๆให้พักฟื้่น
บอลพรีเมียร์ลีกเตะเกมสุดท้ายสุดสัปดาห์นี้วันอาทิตย์ที่ 13 แต่พวกเขามีโปรแกรมเตะเปิดหัวกับ อิหร่าน ในวันจันทร์ที่ 21 ซึ่งเท่ากับว่ามีเวลาเตรียมทีมเก็บตัว/เดินทางและฝึกซ้อมกันแค่ 8 วัน
นี่ปรีซีซั่นหรือฟุตบอลโลกครับเนี่ย?
จากเวลาที่บีบสุดๆห้ามป่วยห้ามตายทำให้เราเห็นนักเตะหลายคนประคองตัวกับสโมสรจนมีวลีคำพูดที่ว่า “เซฟตัวไปบอลโลก”
อีกจุดที่ทำให้ผมว่าบอลโลกมันกร่อยๆก็เพราะไอ้โปรแกรม “เนชั่นลีก” ที่ชาติใหญ่ๆเจอกันบ่อยเกินไปจน “ล้น” และไม่รู้สึกว่ามีอะไรน่าตื่นเต้นอีกแล้ว
การเลือกทีมชาติอุ่นเกือกในอดีตเขาจะพิจารณาจากคู่ร่วมสายว่ามาจากทวีปไหน สไตล์การเล่นคล้ายกัน อิสระเป็นของชาตินั้นๆแต่ปัจจุบันถูกมัดมือชกแบ่งสายเป็นทัวร์นาเมนท์ย่อยๆที่สารภาพเลยว่าผมไม่เคยดูเลยแม้กระทั่งตอนนั้นยังไม่ได้นอนก็ตาม
พระเอก, นางเอก และบอสตัวร้าย ต้องถูกปูเรื่อง บิวด์ อัพปูมหลังจนคนดูได้อารมณ์เต็มที่ก่อนปล่อยให้เจอกันในซีนสำคัญๆ หาใช่ว่าเปิดตัวปุ๊บนัวเนียทรีซัมแล้วจะไปต่อยังไงครับ?
วันก่อน เซปป์ แบล็ตเตอร์ อดีตประธานฟีฟ่าผู้เลือก กาตาร์ มากับมือเมื่อปี 2010 ล่าสุดออกมาขอโทษและยอมรับผิดกับการตัดสินใจครั้งนี้โดยคีย์เวิร์ดคือประเทศนี้ “เล็กเกินไป” และเป็นตัวเลือกที่ “ห่วยแตก”
ต้องยัดเงินกันมหาศาลขนาดไหนถึงโยกเดือนเตะอย่างไม่อายฟ้าดินเพราะหน้าร้อนที่ กาตาร์ จะสูงถึง 30-50 องศา
ว่ากันว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ กาตาร์ ที่ไม่เคยเล่นบอลโลกเลยซักครั้งหว่านเพื่อเป็นเจ้าภาพสูงถึง 42 พันล้านดอลลาร์โดยหนึ่งในงบนี้คือการติดแอร์ (cooling system) ทั้ง 12 สนาม
กระแสโจมตีมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสียชีวิตของแรงงานอีกหลายคนเป็นขยะใต้พรมที่ฉุดให้การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ กาตาร์ เลวร้ายเข้าไปอีก
ในแง่ของแฟนบอลที่บ้าฟุตบอลเดินทางเฮฮาปาร์ตี้เพื่อดูทีมรักมาทุกยุคทุกสมัยเจอปัญหาใหญ่ไม่แพ้กันครับ
ผมอ่านเจอบทความของ Givemisport เผยว่าต่อให้คุณมีตั๋วดูฟุตบอลโลกอยู่ในมือ อุปสรรคที่ต้องเจอคือหาที่พักซุกหัวนอน
ด้วยความที่ กาตาร์ ซึ่งมีประชากร 3 ล้านคนและไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวพวกโรงแรมที่พักกลายเป็นของหายากและเมื่อหายากราคาย่อมสูงตามดีมานด์ซัพพลาย
ค่าที่พักต่อคืนอาจสูงถึง 9,000 ปอนด์หรือคิดเป็นเงินไทยไม่เท่าไหร่จิ๊บๆแค่ 378,000 หรือคืนนึงเกือบ 4 แสนบาท เช็ดแม่!!!!
พูดตัวเลขลอยๆคุณอาจมองไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่ายกตัวอย่างในทีนี้เป็นคน อังกฤษ (บทความของ อังกฤษ) ตั๋วเครื่องบินจ่ายไปแค่ 1,063 ปอนด์รวมกับค่าตั๋วดูบอลยังห่างไกลหลายขุมนรก
ที่กล่าวมาเหมือนจะเลวร้ายที่สุดแล้วแต่สำหรับพวกฝรั่งมังค่าการดูบอลมันต้องมี “แอลกอฮอล” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอันเป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาชั่วลูกชั่วหลาน
แต่ แอล ที่ กาตาร์ ดันเป็นสิ่งผิดกฏหมาย แม้กระทั่งเป็นคนต่างชาติคุณจะมาซดซู้ดซ้าดมั่วซั่วไม่ได้ เขา “จำกัด” เวลาและสถานที่บังคับคุณ
แม้ในท้ายที่สุดเจ้าภาพยอดลดราวาศอกให้ขายเครื่องดื่มน้ำเมาได้แต่ก่อนเตะแค่ 30 นาทีตามโซนจุดต่างๆที่ได้กำหนดเอาไว้ (บอลจบก็ขายให้แต่แค่ระยะเวลาสั้นๆ)
และแน่นอนคุณหนีบเอาเข้าสนามไม่ได้นะครับใช่ครับ ถ้าลักลอบแอบเอาเข้ามาก็ต้องระวังให้ดีเพราะกล้อง CCTV มีอยู่ทั่วประเทศไม่ใช่แค่ในสนาม
มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะครับที่องค์กรระดับฟีฟ่าที่เขาต้องทำการบ้านอย่างหนักถึงจะยกสิทธิ์ให้ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นเจ้าภาพ
ดังนั้นแล้วมันต้องสกปรกโสมมแค่ไหนถึงจิ้มเลือก กาตาร์ ที่มีข้อจำกัดและปัญหามากมายขนาดนี้
ที่ว่ามาคือผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเหล่าชายผู้ใส่สูทผูกเน็คไทด์ในห้องแอร์แต่การตีแผ่เบื้องลึกเบื้องหลังมันมาได้ถูกที่ถูกเวลาจริงๆครับ
