สิงโตคำราม” เสียสถิติไร้พ่าย 7 เกมรวดแถมหล่น จ่าฝูง หลังเปิดบ้านพ่าย เดนมาร์ก 0-1 โดยเจ้าถิ่นเหลือผู้เล่น 10 คน แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โดนไล่ออกตั้งแต่นาทีที่ 32 แถม 3 นาทีต่อมา ไคล์ วอล์กเกอร์ มาทำเสียจุดโทษให้ คริสเตียน เอริคเซ่น สังหารประตูโทนพา “โคนม” เก็บ 3 คะแนน ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก (ลีก เอ กลุ่ม 2) คืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม 

    แกเร็ธ เซาธ์เกต พาอังกฤษเปิดบ้านพลิกแซงคว้าชัยเหนือเบลเยียม 2-1 ทำให้เจ้าบ้านก้าวขึ้นมารั้งตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยมีคะแนนมากกว่าเบลเยียม 1 แต้มหลังจากที่ผ่านไปแล้ว 3 นัด 

    ทางด้าน เดนมาร์กของกุนซือ คาสเปอร์ ฮูลมานด์ บุกไปถล่มเอาชนะไอซ์แลนด์ 3-0 ทำให้มี 4 คะแนนจากการลงสนามไปแล้ว 3 นัด 
    
    เริ่มเกมได้แค่ 5 นาที “สิงโตคำราม” หวิดงานเข้าเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ไปเปิดปุ่มอันตรายใส่ข้อเท้า ยุสซุฟ โพลเซ่น โชคดี เฆซุส คิล มานซาโน่ ผู้ตัดสินยังใจดีให้แค่ใบเหลือง

    2 นาทีต่อมาทัพ “โคนม” ได้ลุ้นประตูเป็นบอลทางขวาของ ยุสซุฟ โพลเซ่น ครอสบอลเข้าเขตโทษเกือบถึง แคสเปอร์ โดลเบิร์ก แต่ต้องชม คอนอร์ เคาดี้ ทิ้งตัวสกัดเอาไว้ได้ทัน

    จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมทางขวาของ คริสเตียน เอริคเซ่น เล่นลูกสูตรจ่ายย้อนมาให้ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก วิ่งถอยมาตวัดด้วยขวาแฉลบแนวรับ อังกฤษ เฉี่ยวเสาแรกออกหลังไป

    นาทีที่ 13 โอกาสลุ้นครั้งแรกของ อังกฤษ เป็นจังหวะลุยทางริมเส้นฝั่งขวาของ เมสัน เมาท์ แตะลอดขา โธมัส เดลานี่ย์ พาบอลเข้ากรอบเขตโทษแต่จังหวะเปิดไม่ดีไปเข้ามือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล 

    3 นาทีต่อมา “สิงโตคำราม” เร่งเครื่องต่อคราวนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลองกดด้วยขวาหน้าหัวกะโหลกฝั่งซ้ายบอลพุ่งแรงแต่ไปตรงตัว แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล รับไว้ไม่มีหลุด

    นาทีที่ 17 เดนมาร์ก  แลกหมัดบ้างจากจังหวะสวนกลับ คริสเตียน เอริคเซ่น พาเลี้ยงกินแดนมาจากครึ่งสนามก่อนได้ช่องซัดด้วยขวาเสียดายไปโดนใต้ลูกบอลเหินข้ามคานออกไปไกล

    ต่อมานาทีที่ 24 ยุสซุฟ โพลเซ่น แทงบอลยาวให้ แคสเปอร์ โดลเบิร์ก สอดมารับบอลพากระชากหนี คอนอร์ เคาดี้ หลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะตวัดด้วยขวามุมไม่มีผ่านหน้าประตูออกไป

    ไม่รอดตามคาดนาทีที่ 32 อังกฤษ ต้องมาเหลือ 10 คนเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เหม่อแตะบอลยาวก่อนไปโดดเปิดปุ่มใส่ข้อเท้า แคสเปอร์ โดลเบิร์ก ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกให้ใบแดงไล่ออกจากสนามไป

    3 นาทีต่อมา “โคนม” ฉวยโอกาสขึ้นนำทันทีจากความผิดพลาดของ ไคล์ วอล์กเกอร์ กะจังหวะบอลไม่ดีไปหวด โธมัส เดลานี่ย์ ร่วงลงไปในกรอบเขตโทษและเป็น คริสเตียน เอริคเซ่น สังหารจุดโทษเข้าไปไม่พลาด

 หมดครึ่งเวลาแรก อังกฤษ 0 เดนมาร์ก 1

    เปิดฉากครึ่งหลังเป็น เดนมาร์ก ครองบอลได้มากว่าตามตาดแต่ยังหาจังหวะจบสกอร์ยาก ส่วนทาง “สิงโตคำราม” พยายามให้แบ๊กเติมเกมมากขึ้นแถมได้ลุ้นจากลูกยิงของ รีซ เจมส์

    นาทีที่ 65 อังกฤษ พลาดโอกาสทองจากจังหวะลูกเตะมุมทางซ้ายของ คาลวิน ฟิลลิปส์ วางลึกมาเสาไกลให้ เดแคลน ไรซ์ โขกชงต่อให้ เมสัน เมาท์ โฉบมาโหม่งจ่อๆไปติดเซฟ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เหลือเชื่อ

    2 นาทีต่อมา เดนมาร์ก แลกหมัดทันควันเป็นจังหวะเปิดทางซ้ายของ ปิโอเน ซิสโต วางลึกไปเสาไกลถึงหัว ดาเนียล วาสส์ โฉบตัดหน้า ไคล์ วอล์กเกอร์ โขกข้ามคานออกไป

    15 นาทีสุดท้าย เดนมาร์ก มาพลาดโอกาสปิดกล่อง คริสเตียน เอริคเซ่น ขยันไปฉกบอลจาก คาลวิน ฟิลลิปส์ ก่อนลากจี้ดึงแนวรับ อังกฤษ 3 คนแทงออกซ้ายให้ ปิโอเน ซิสโต วิ่งมาซัดโล่งๆผิดเหลี่ยมไปติดเท้า คอนอร์ เคาดี้

    นาทีที่ 77 โธมัส เดลานี่ย์ ไปเสียเหลี่ยมทำฟาวล์ แฮร์รี่ เคน เสียฟรีคิกระยะอันตราย รีซ เจมส์ รับหน้าที่ตะบันด้วยขวาเกือบเสียบใต้คานติดปลายมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

    ท้ายเกม อังกฤษ ได้เสียวส่งท้าย แฮร์รี่ เคน เก็บบอลในกรอบเขตโทษก่อนตักย้อยให้ คาลวิน ฟิลลิปส์ โขกย้อนไปเสาแรกติดตัว ซิมอน เคียร์ ยืนขวางไว้บนเส้น

    “สิงโตคำราม” ยังเสียหายไม่พอ รีซ เจมส์ ไปเถียงผู้ตัดสินโดนใบแดงโดยครงไล่ออกไปอีกคน

    จบเกม อังกฤษ 0 เดนมาร์ก 1 ลูกทีมของ คาสเปอร์ ฮูลมานด์ เก็บ 3 คะแนนสำคัญมี 7 แต้มเท่า อังกฤษ แต่ประตูได้-เสีย ดีกว่าขยับรั้งรองจ่าฝูง ลีก เอ กลุ่ม 2