ชั่วโมงนี้ชื่อของ เฟร์ราน ตอร์เรส ปีกเลือดกระทิง กลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองอย่างมาก หลังฉายแววเด่นทั้งกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และในนามทีมชาติสเปนชุดใหญ่ แม้เพิ่งจะอยู่ในวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น แต่กราฟชีวิตบนเส้นทางลูกหนังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ตอร์เรส เกิดที่เมืองบาเลนเซีย ประเทศ สเปน ซึ่งแน่นอนว่าเขาเป็นแฟนพันธ์แท้ของสโมสร บาเลนเซีย มาโดยตลอด และด้วยสายเลือดที่เข้มเข้นทำให้เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับทีม “ไอ้ค้างคาว” โดยเข้าร่วมทีมเยาวชนตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และเริ่มที่จะฉายแววเด่นก่อนจะถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดเบ และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2017 พร้อมกับทำให้เขาสร้างสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่เกิดในยุคปี 2000 ที่ได้ลงสนามใน ลา ลีกา ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นดาวเตะชาวสแปนิชก็พัฒนาฝีเท้าจนก้าวมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2018-19 โดยมีสถิติยิง 3 ประตู จากการลงเล่น 37 เกมในทุกรายการ ส่วนในซีซั่น 2019-20 เจ้าตัวก็มีผลงานดีขึ้นตามลำดับยิงไป 6 ประตูจากการลงเล่น 44 เกมทุกรายการ จากความยอดเยี่ยมดังกล่าวทำให้เขาเริ่มถูกจับตามองเป็นอย่างมาก โดยตกเป็นเป้าหมายของหลายทีมชั้นนำในยุโรป ก่อนที่สุดท้ายจะเลือกย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีกุนซือชาติเดียวกันอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ดึงตัวมาร่วมทีม ด้วยค่าตัว 20.8 ล้านปอนด์ เพื่อมาเป็นตัวตายตัวแทนของรุ่นทีมชาติอย่าง ดาบิด ซิลบา ที่ตัดสินใจย้ายไปหาความท้าทายครั้งใหม่กับ เรอัล โซเซียดาด ตอร์เรส เผยถึงเหตุผลที่เลือกมาอยู่กับ “เรือใบสีฟ้า” ว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้เข้ามาอยู่กับซิตี้ นักเตะทุกคนต้องการมีส่วนร่วมในเกมรุกของทีม และซิตี้เป็นหนึ่งในทีมที่เล่นเกมรุกดีที่สุดในโลกฟุตบอล เป๊ป กวาร์ดิโอลา สนับสนุนสไตล์ที่เปิดกว้างและก้าวร้าวอย่างแท้จริง ซึ่งผมชอบมาก และเขาก็เป็นโค้ชที่มีผลงานที่พิสูจน์แล้วในการพัฒนาผู้เล่น การให้เขาดูแลการพัฒนาของผมเป็นเหมือนความฝันเลย ซิตี้คว้าแชมป์ได้มากมายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และผมหวังว่าจะได้มีบทบาทในการสานต่อความสำเร็จนั้น” สำหรับสไตล์การเล่นของ ตอร์เรส นั้นเป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีกขวามีทั้งทักษะ และความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่สูง รวมถึงยังสามารถสลับบทบาทเข้าไปมีส่วนร่วมกับแทบจะทุกพื้นที่ในสนามได้ ซึ่งจุดนี้เองทำให้เขา