“ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี เจ้าของอันดับ 4 ไทยลีก ฤดูกาล 2020 ขณะนี้ ที่มี 17 แต้ม จากผลงาน เตะ 9 นัด ชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 2 นัด เท่ากับอันดับ 2-3 อย่าง สิงห์เชียงรายฯ , ราชบุรีฯ จากการลงเตะเท่ากันที่ 9 เกม แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรองทั้ง 2 ทีมดังกล่าว มีโอกาสจะได้กลับไปโชว์ผลงานในเวทีลูกหนังชิงแชมป์สโมสรเอเซียได้อีกครั้งหลังจากพวกเขา เคยไปโชว์ผลงานมาแล้วเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร เมื่อปี 2559 ใน เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาล 2017

    โดยครั้งนั้น สุโขทัย สามารถผ่านเข้าได้ถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2016 แต่ปีดังกล่าวถ้วยน็อคเอาต์ของไทยไม่มีแข่งขันนัดชิงเนื่องจากเป็นปีที่ รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต ก่อน สุโขทัยฯ จะได้สิทธิไปแข่งขัน จากสมาคมฟุตบอลฯ แต่พวกเขาได้เล่นแค่ 2 เกมในรอบคัดเลือกและเพลย์ออฟ โดยเกมแรก รอบคัดเลือก เปิดบ้าน ชนะ ยาดานาบอน ของพม่า 5-0 และ รอบเพลย์ออฟ บุกแพ้ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี 0-3ขณะที่ แบงค็อกฯที่เป็นรองแชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2016 จอดป้ายแค่รอบเพลย์ออฟ เช่นกันส่วนแชมป์ไทยลีกฤดูกาล 2016 อย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ ผ่านเข้าถึงรอบ 16 ทีมศึกเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ฤดูกาล 2017 ได้

    หากอีก 6 นัดที่เหลือของเลกแรกปีนี้ สุโขทัยฯ ยังรักษาฟอร์มเก่งเอาไว้ได้ จนจบอยู่ในอันดับ 1-4 ของไทยลีก ฤดูกาล 2020 เลกแรกได้พวกเขาก็จะสามารถสร้างประวัติศาสตร์ครั้งที่ 2 ให้กับสโมสรสำเร็จ กับการได้เล่น เอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก