ทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ เกมที่ 3 ในระบบ 4-4-2 มีใครบ้าง

ผู้รักษาประตู : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ (ลีดส์) 

นายด่านชาวฝรั่งเศสวัย 20 ปี โชว์เซฟลูกยิงของ จอห์น ลุนด์สแตรม และ จอร์จ บัลด็อก ได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยพาทีมเก็บคลีนชีตแรกของซีซั่น

กองหลัง : อาร์เธอร์ มาซูอากู (เวสต์แฮม)

  วิงแบ็กทีมชาติคองโก เล่นได้โดดเด่นเหลือหลาย แถมยังทำแอสซิสต์ช่วยทีมประตูได้อีกด้วย

กองหลัง : แยน เบดนาเร็ค (เซาธ์แฮมป์ตัน)

สัปดาห์ก่อน แนวรับจากทีม’นักบุญ’ ติดทีมยอดแย่ของเรา แต่มาวีคนี้กระโดดขึ้นมาติดทีมยอดเยี่ยมด้วยผลงานน่าประทับใจ  ในเกมบุกเยือนถิ่น เทิร์ฟ มัวร์ ไม่มีผู้เล่น เซาธ์แฮมป์ตัน คนไหนที่จะเคลียร์บอลได้มากเท่า เบดนาเร็ค อีกแล้ว(13 ครั้ง) รวมถึงการตัดบอลอีก 3 ครั้ง

กองหลัง : ไทรอน มิงส์ (แอสตัน วิลล่า)

เกมที่แล้วเขาเป็นผู้โขกตั้งให้เพื่อนทำประตู และมาเกมนี้ มิงส์ ก็จัดการยิงประตูด้วยตัวเอง แถมยังพาทีมเก็บคลีนชีตในการบุกเยือนถิ่น คราเวน คอตเทจ ของ ฟูแล่ม  ครึ่งหนึ่งของประตูที่ มิงส์ มีส่วนร่วมไม่ว่าจะยิงเองหรือแอสซิสต์ใน พรีเมียร์ลีก (6 ประตูจากทั้งหมด 52 เกม) มาจากการลงเล่น 4 เกมหลังสุด (1 ประตู, 2 แอสซิสต์)

 กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ลิเวอร์พูล)

ถึงแม้จะสกัดบอลพลาดจนทำให้ทีมเสียประตู แต่ ร็อบโบ้ ก็มาแก้ตัวคืนด้วยการทำประตูแซงขึ้นนำ 2-1 และตลอดทั้งเกมเขาก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น   8 เกมหลังในเวที พรีเมียร์ลีก โรเบิร์ตสัน ทำได้ 2 ประตู, 5 แอสซิสต์ มีเพียงแค่เกมกับ เชลซี เท่านั้นที่เขาไม่มีส่วนร่วมกับประตู

 กองกลาง : แจ็ก กรีลิช (แอสตัน วิลล่า)

  

   กรีลิช เป็นตัวขับเคลื่อนเกมรุกของ วิลล่า ในเกมที่บุกเอาชนะ ฟูแล่ม 3-0 เจ้าตัวเบิกสกอร์แรก และยังมีส่วนร่วมกับประตูที่ 2     นับตั้งแต่เริ่มต้นเมื่อซีซั่นที่แล้ว กรีลิช มีส่วนร่วมกับประตูของ วิลล่า ในศึก พรีเมียร์ลีก 15 ลูก แบ่งเป็น 9 ประตู และ 6 แอสซิสต์ 

กองกลาง : ฮาเมส โรดริเกซ (เอฟเวอร์ตัน)

แม้จะไม่มีชื่อทั้งทำประตูและแอสซิสต์ แต่การทำเกมและการสร้างสรรค์ของ เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติโคลอมเบีย นับว่าสร้างประโยชน์ให้แก่ เอฟเวอร์ตัน มากมาย  โรดริเกซ สร้างโอกาสทำประตูให้กับ เอฟเวอร์ตัน ในลีกอังกฤษ มากถึง 10 ครั้งในฤดูกาลนี้ โดยเกมล่าสุดทำได้ 3 ครั้ง

กองกลาง : บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แมนฯ ยูไนเต็ด) 

    บรูโน่ มีส่วนร่วมกับประตูไปทั้งสิ้น 17 ประตู จากการลงสนาม 16 เกมพรีเมียร์ลีก โดยแบ่งเป็น 9 ประตู 8 แอสซิสต์ และที่สำคัญการยิงลูกจุดโทษของเขายังไว้ใจได้เสมอ

 กองกลาง : เมสัน เมาท์ (เชลซี)

เล่นได้อย่างมีชีวิตชีวากับตำแหน่งแดนบน และประสานงานกับ รีซ เจมส์ ได้ดี   ในครึ่งหลัง เมื่อทีมโดนนำ 0-3 เขาก็เป็นผู้ปลุกความหวังของ เชลซี กลับคืนมาจนสุดท้ายทวงประตูตีเสมอช่วงทดเวลาบาดเจ็บได้สำเร็จ

กองหน้า : เจมี่ วาร์ดี้ (เลสเตอร์)

 วาร์ดี้ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ทำแฮตทริกใส่ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ถึง 2 หน และ 3 ประตูในเกมนี้ตอกย้ำว่าด้วยวัย 33 ปี เขายังเล่นบนเวทีลีกสูงสุดของ อังกฤษ ได้อย่างสบายๆ

กองหน้า : มาร์คัส แรชฟอร์ด (แมนฯ ยูไนเต็ด)

    แม้ครึ่งแรกจะไม่โดดเด่น แต่พอครึ่งหลัง แรชฟอร์ด ยกระดับตัวเองขึ้นมา และเป็นผู้ทำประตูให้ทีมออกนำ 2-1 ด้วยลีลาอันพลิ้วไหว   นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แรชฟอร์ด เป็นแข้ง’ผีแดง’ ที่ทำประตูใน พรีเมียร์ลีก มากที่สุดที่จำนวน 18 ประตู