สิงโตคำราม” แม้จะตกเป็นรองก่อนหลัง โรเมลู ลูกากู ซัดจุดโทษขึ้นนำ ทว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด มาซัดจุดโทษคืนบ้าง ก่อนที่ครึ่งหลัง อังกฤษ มาได้ประตูชัยจาก เมสัน เมาน์ท ซัดให้ทีมแซงคว้าชัยเหนือ เบลเยียม 2-1 เก็บสามแต้มขึ้นนำจ่าฝูง กลุ่ม 2 ลีก เอ ในเกม เนชั่นส์ ลีก เมือคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

    ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม 2 ลีก เอ เป็นการพบกันระหว่าง อังกฤษ เปิดเวมบลี่ย์รับการมาเยือนของเบลเยียม โดยฟอร์มสองนัดที่ผ่านมา “สิงโตคำราม” ชนะไอซ์แลนด์ 1-0 ก่อนจะมาเสมอกับ เดนมาร์ก แบบไร้สกอร์ 0-0 ขณะที่ เบลเยียม ฟอร์มเฉียบชนะรวดมา 2 เกม ทั้งบุกเชือด เดนมาร์ก 2-0 ก่อนที่เกมที่แล้วจะเล่นในบ้านไล่ถล่ม ไอซ์แลนด์ 5-1

เกมนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ให้โอกาส โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ก่อนหน้า แฮร์รี่ เคน ที่เป็นสำรอง โดยมี เมสัน เมาน์ท และ มาร์คัส แรชฟอร์ด สนับสนุน ขณะที่แนวรับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้เล่น เนชั่นส์ ลีก เป็นเกมแรก ส่วนทางฝั่ง โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ ให้  เควิน เดอ บรอยน์ ปั้นเกมรุกร่วมกับ  ยานนิค การ์ราสโก้ โดยทิ้ง โรเมลู ลูกากู เป็นหน้าเป้า

    แค่ 10 นาทีแรก เบลเยียม ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายหลัง ยานนิค การ์ราสโก้ ซัดเต็มแรงส่งบอลเข้าก้นตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าของ โธมัส เมอนิเย่ร์ ไปก่อน

    กระนั้น นาที 16 “สิงโตคำราม” มาพลาดท่าเสียจุดโทษหลัง โรเมลู ลูกากู โชว์สปีดต้นกระชากหนี เอริก ดายเออร์ เข้าไปในเขตโทษ ก่อนที่ ดายเออร์ จะเสียเหลี่ยมไปสไลด์ก่อนจะไปโดนตัว ลูกากู ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษทันที ก่อนที่อดีตดาวยิง “ผีแดง” จะลุกขึ้นมาสังหารยิงเข้าไปไม่พลาดให้ เบลเยียม บุกมานำเจ้าถิ่น 1-0

    เกมรุกเจ้าบ้านยังไม่กระเตื้อง แถมโดน “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ไล่บดทำเกมรุกได้เหนือกว่า นาที 19 เควิน เดอ บรอยน์ ซัดนอกกรอบแต่ยังดีที่ จอร์แดน พิคฟอร์ด เซฟไว้ได้

    นาที 38 “สิงโตคำราม” มาเรียกจุดโทษคืนบ้าง หลัง โธมัส เมอนิเย่ร์ ไปดึง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ล้มลง โทเบียส สตีเลอร์ เปาชาวเยอรมันเป่าให้จุดโทษแถมแจกใบเหลืองให้ เมอร์นิเย่ร์ ก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะรับหน้าที่ยิงเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้ อังกฤษ ไล่ตีเสมอ 1-1

    ท้ายครึ่งแรก นาที 43 เบลเยียม เกือบได้ลุ้นแซงขึ้นนำอีกหน เมื่อ ลูกากู ทำเหนือตอกส้นให้ ยานนิค การ์ราสโก้ หลุดเข้าไปซัดด้วยขวา แต่ยิงไม่ดีพอบอลหลุดกรอบอย่างน่าผิดหวัง

    จบครึ่งแรก อังกฤษ เสมอกับ เบลเยียม 1-1

 กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาที 49 โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน เทกตัวเช็ดบอลต่อให้ แรชฟอร์ด สปีดหนีแนวรับเบลเยียมเข้าไปในกรอบก่อนจะดึงจังหวะแล้วไหลแถวสองให้ คัลเวิร์ต-ลูวิน วิ่งมาซัดบอลเหินโด่งออกไปไกล

    กลายเป็นครึ่งหลัง เซาธ์เกต แก้เกมมาได้ดีกว่าปิดเกมรุกของทีมเยือนเกือบหมด และนาที 64 อังกฤษ มาพลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จนได้ จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ วางบอลมาเสาไกลให้ คีแรน ทริปเปียร์ โขกชงเข้ากลางถึง เมสัน เมาน์ท โยกหนีก่อนปั่นด้วยขวาไปแฉลบ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ก่อนบอลย้อยเสียบเสาเหลี่ยมอย่างสุดเฮง เป็นเครดิตการยิงประตูของดาวเตะจากค่าย “สิงห์บลูส์” 

    นาที 66 อังกฤษ เปลี่ยนสองคนรวดถอดเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และโดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ออกแล้วส่ง คัลวิน ฟิลลิปส์ และแฮร์รี่ เคน ลงเล่นแทน

    นาที 72 เบลเยียม พลาดโอกาสลุ้นตีเสมอแบบน่าเสียดาย คราวนี้ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายคิลเลอร์พาสตัดแนวรับให้ ยานนิค การ์ราสโก้  หลุดเข้าไปแต่โดน พิคฟอร์ด ออกมาบีบมุมทำให้ยิงหลุดกรอบออกไป

    นาที 82 เจ้าถิ่นได้ลุ้นจากลูกคอนเนอร์ทางด้านซ้าย คีแรน ทริปเปียร์ เปิดบอลมากลางประตูให้ แฮร์รี่ เคน เทกตัวขึ้นโขกแต่โหม่งไม่ดีบอลหลุดกรอบอย่างน่าผิดหวัง

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม อังกฤษ พลิกแซงเอาชนะ เบลเยียม 2-1 คว้าสามแต้มแซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงด้วยการมี 7 คะแนน ส่วน เบลเยียม แพ้เป็นนัดแรก มี 6 คะแนนรั้งอันดับ 2