เชลซี

แฟร้งค์ แลมพาร์ด พาสิงโตน้ำเงินครามไม่แพ้ใครมา 10 เกมติดต่อกันโดยได้ไปถึง 7 คลีนชีต 6 เกมล่าสุดชนะรวดโดยในพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ก่อนบุกชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 ตามด้วยบุกชนะ แรนส์ อีก 2-1 ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ลอยลำเข้ารอบน็อกเอ๊าต์เรียบร้อย

ข่าวดีของ เชลซี ก็คือ คริสเตียน พูลิซิช ตัวรุกคนเก่งหายบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเรียบร้อยและพร้อมจะกลับมาเป็นตัวเลือกให้กับ แลมพาร์ด ซึ่งนัดนี้ สิงโตน้ำเงินคราม จะฟูลทีมกันเลยทีเดียว

เกมนี้เชื่อว่าตัวสำรองในเกมชนะ แรนส์ อย่าง รีซ เจมส์, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, และ ฮาคิม ซีเย็ค จะได้กลับมาเป็นตัวจริงทั้งหมด โดยตัวเข้าทำ 3 คนจะเป็น ติโม แวร์เนอร์, แทมมี่ อับราฮัม และ ซิเย็ค นั่นเอง

ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์

โชเซ่ มูรินโญ่ พาทีม ไก่เดือยทอง ชนะ 5 เกมติดต่อกันในทุกรายการ โดยฟอร์มล่าสุดในพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ก่อนเปิดบ้านชนะ แมนฯซิตี้ ไปอย่างน่าประทับใจ 2-0 ตามด้วยการเปิดบ้านชนะ ลูโดโกเรตส์ อีก 4-0 ใน ยูโรปา ลีก

โดย สเปอร์ส จะไม่มี โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ปราการหลังจอมเก๋าที่เจ็บโคนขาหนีบในวันชนะ เรือใบสีฟ้า คาดว่า ดาวินซอน ซานเชซ จะได้ลงเล่นแทนโดยจะยืนคู่กับ เอริก ดายเออร์

นอกจากนี้ อูโก้ โยริส, โจวานนี่ โล เซลโซ่ และ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ที่พลาดเกมในวันพฤหัสฯเนื่องจากบาดเจ็บเล็กน้อยน่าจะกลับมามีชื่อในนัดนี้ทั้งหมด

โดยตัวเข้าทำจะนำมาโดย แฮร์รี่ เคน ที่ทำไปแล้ว 7 ประตูกับ 9 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ รวมทั้ง ซน ฮึง-มิน กองหน้าเกาหลีใต้ที่กดไป 9 ประตูเป็นรองดาวซัลโวอยู่