เปรู กลายเป็นทีมแรกที่ผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก หลังดวลจุดโทษเอาชนะ ปารากวัย แบบสนุก 4-3 หลังเสมอในเวลา 90 นาที 3-3 แถมทั้งสองทีมต้องเหลือแค่ 10 คนหลังโดนไล่ออกฝั่งละใบ โดยจะเข้าไปรอพบ บราซิลหรือชิลี ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ ในเกมโกปา อเมริกา รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา

ฟุตบอล โกปา อเมริกา 2021 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ระหว่างเปรู พบกับ ปารากวัย โดยผู้ชนะของคู่นี้จะเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกรอพบผู่้ีชนะระหว่าง บราซิล หรือชิลี ในวันที่ 5 ก.ค.นี้

เริ่มเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 11 นาที ปารากวัย ทะยานขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุมทางด้านซ้าย  ริชาร์ด ซานเชซ เปิดมาให้ เฮคเตอร์ มาร์ติเนซ โขกเต็มแรงไปติดมือ เปโดร กาเยเซ่ แต่ยังไม่พ้นทางปืน กุสตาโว่ โกเมซ ตามซ้ำจ่อๆไม่ถึง 2 หลาเข้าไป

ปารากวัยยังบุกต่อเนื่อง นาที 17  ซานติอาโก้ อาร์ซานเมนเดีย ตะบันด้วยซ้ายเต็มแรงแต่ยังไม่ผ่านมือ เปโดร กาเยเซ่ ถัดมาจากลูกเตะมุม อังเคล โรเมโร่ เปิดมาให้ คาร์ลอส กอนซาเลซ เก็บตกในกรอบก่อนซัดไปติดมือ กาเยเซ่ ปัดออกไป

อีกสองนาทีต่อมา โอกาสของเปรู บ้าง การ์รีโย่ ไหลต่อให้ เซร์คิโอ เปนญ่า ตัดเข้าหน้ากรอบก่อนตะบันด้วยซ้ายเต็มแรงแต่บอลก็ยังพุ่งไปติดมือ แอนโธนี่ ซิลวา

นาที 21 กลายเป็นเปรู ที่บุกน้อยกว่ามาไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลขึ้นทางขวา อันเดร การ์รีโย่ ใช้ความเร็วควบบอลเข้ามา ก่อนปาดมาหน้ากรอบให้ จานลูก้า ลาปาดูล่า โฉบมาปาดบอลผ่านมือ แอนโธนี่ ซิลวาเข้าไป

เปรู.

เปรู ที่โอกาสน้อยกว่า มาได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 ในนาที 40 จากจังหวะสวนขึ้นมาเร็วทางขวา โยชิมาร์ โยตุน แทงบอลขึ้นหน้าให้ จานลูก้า ลาปาดูล่า หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ แอนโธนี่ ซิลวา เข้าไปอย่างเฉียบขาด และเป็นเม็ดที่สองของ ลาปาดูล่า ในเกมนี้อีกด้วย

ช่วงทดเจ็บ นาที 45+3 ปารากวัยต้องเหลือแค่ 10 คนหลัง กุสตาโว่ โกเมซ แนวรับมาโดยเหลืองที่สองหลังไปเจตนาเล่นนอกทำให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนามไป

 จบครึ่งแรก เปรู ขึ้นนำ ปารากวัย 2-1

ครึ่งหลัง นาที 54 ปารากวัย มาตีเสมอ 2-2 ไดสำเร็จ บอลจากลูกเตะมุมเปิดเข้ามาให้ คาร์ลอส กอนซาเลซ ขึ้นเช็ดไปแฉลบแข้งเปรูก่อนเลยไปเสาไกลเข้าทาง จูเนียร์ อลอนโซ่ หลุดไปเสามุมแคบเบียดเสาเข้าไปอย่างเฉียบขาด

เปรูที่ตัวผู้เล่นมากกว่าเกือบได้เม็ดที่สามแซงนำอีกครั้ง คราวนรี้เป็น คริสเตียน กวยว่า ปั่นฟรีคิกระยะหวังผลไม่ถึง 20 หลาบอลหลุดกรอบออกไป อีกนาทีถัดมา ซานติอาโก้ ออร์เมนโญ่ กดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่ยังไม่ผ่านมือ ซิลวา นายด่านปารากวัย

ริคาร์โด้ กาเรก้า สั่งลูกทีมเดินหน้าลุย กับตัวผู้เล่นที่ได้เปรียบทำให้เปรู ยังเดินหน้าบุกเข้าใส่ และนาทีที่ 80 มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 จากจังหวะที่ โยชิมาร์ โยตุน กดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลพุ่งไปแฉลบแนวรับปารากวัยก่อนพุ่งเข้าก้นตาข่ายชนิดที่ แอนโธนี่ ซิลวา พุ่งไปผิดทาง

กระนั้น นาที 85 เปรูมาเหลือ 10 เท่ากับปารากวัยบ้างหลัง อันเดร การ์รีโย่ โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

เกมทำท่าว่าจะเป็นชัยชนะของ เปรู แต่แล้ว นาทีสุดท้าย ปารากวัยมาไล่ตีเสมอ 3-3 ได้อย่างเหลือเชื่อหลัง เฮคเตอร์ มาร์ติเนซ ครอสมาเสาแรกก่อน อังเคล โรเมโร่ ได้บอลซัดไปติดมือ กาเยเซ่ แต่ยังไหลมาเข้าทาง กาเบรียล อบาลอส ตัวสำรองพุ่งชาร์จเข้าไปไม่เหลือ

เปรู.

จบเกม เปรู เสมอกับ ปารากวัย 3-3 ต้องตัดสินด้วยการดวลลูกที่จุดโทษ ซึ่งผลปรากฎว่า เปรู ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ ปารากวัย ไปได้ 4-3 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกเป็นทีมแรก รอพบผู้ชนะระหว่าง บราซิล หรือชิลี ในวันที่ 5 ก.ค.นี้