อังกฤษ เต็งหนึ่งของการแข่งขัน ณ เวลานี้ จะพบกับ ยูเครน ในศึกยูโร 2020 รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่สตาดิโอ โอลิมปิโก้ กรุงโรม ประเทศอิตาลี คืนวันที่ 3 กรกฎาคม เวลา 02.00 น  ทีมสิงโตคำราม นั้นล้มคู่ปรับตลอดกาลอย่าง  เยอรมนี ในรอบที่ผ่านมาด้วยสกอร์ 2-0 ส่วนทางด้านของยูเครนนั้น ได้ประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ นาทีที่ 120+1 เอาชนะ  สวีเดน ไปได้ 2-1 ทำสถิติเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก

วันเสาร์ที่ 03 กรกฎาคม 2564

ฟุตบอล ยูโร 2020 (รอบ 8 ทีมสุดท้าย)

ยูเครน VS อังกฤษ

เวลา : 02:00 น.

สนาม : สตาดิโอ โอลิมปิโก (โรม – อิตาลี)

ฟุตบอล

ยูเครน: อังเดร เชฟเชนโก้ เทรนเนอร์ทีมชาติยูเครน พาทีมเข้ารอบนี้แบบสุดดราม่า หลังเบียดชนะสวีเดนที่เหลือ 10 คน 2-1 โดยได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บของการต่อเวลา เป็นการคว้าชัยนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม
ความพร้อมเกมนี้ ที่แน่ๆ “เชว่า” จะชวดใช้งานอาร์เต็ม เบเซดิน กองหน้าสำรองผู้โชคร้ายที่ถูกเปลี่ยนลงไปไม่กี่นาที ก็ได้รับบาดเจ็บที่เข่าอย่างหนักจนเล่นต่อไม่ไหว
นอกจากนั้นไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม แต่ในรายของอาร์เต็ม ดอฟบิค สำรองฮีโร่ผู้โขกดับไวกิ้ง รวมไปถึง 3 ตัวหลักทั้งอังเดร ยาร์โมเลนโก้, เซอร์เก ซีดอร์ชุค และ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ ต้องระวังตัว เพราะติดคาดโทษใบเหลืองอยู่ หากโดนเพิ่มก็จะวืดรอบตัดเชือกทันที หากดับซ่าสิงโตได้
ส่วนแท็คติกสื่อยูเครนมีการวิเคราะห์กันว่า เชว่าน่าจะรัดกุมขึ้น ด้วยการปรับจาก 4-3-3 ในเกมก่อนมาเป็น 5-3-2 โดยมีจอร์จี้ บุชชาน ลงเฝ้าเสา แนวรับประกอบไปด้วยโอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, อิลิย่า ซาบาร์นยี่, เซอร์เก คริฟต์ซอฟ, มีโคล่า มัตวิเยนโก้ และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้
แดนกลางเซอรเก ซีดอร์ชุคจะเดินเกมร่วมกับทาราส สเตปาเนนโก้ และ มีโคล่า ชาปาเรนโก้ ส่วนอังเดร ยาร์โมเลนโก้จะลงล่าตาข่ายคู่กับโรมัน ยาเรมชุค

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูเครน (5-3-2) : จอร์จี้ บุชชาน – โอเล็กซานเดอร์ คาราวาเยฟ, อิลิย่า ซาบาร์นยี่, เซอร์เก คริฟต์ซอฟ, มีโคล่า มัตวิเยนโก้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – เซอรเก ซีดอร์ชุค, ทาราส สเตปาเนนโก้, มีโคล่า ชาปาเรนโก้ – อังเดร ยาร์โมเลนโก้, โรมัน ยาเรมชุค

ฟุตบอล

อังกฤษ: แกเร็ธ เซาธ์เกต เทรนเนอร์ทีมชาติอังกฤษ พาทีมเข้ารอบนี้ หลังบดชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่างเยอรมัน 2-0 ในรอบ 16 ทีม เป็นการคว้าชัย 2 นัดติด
สภาพทีมเกมนี้ เซาธ์เกตไม่มีปัญหาอะไรรบกวนเพิ่มเติม แต่สื่อแดนผู้ดีคาดกันว่าจะมีการปรับในแง่ของแท็คติก หลังใช้ระบบ 3 เซนเตอร์ในเกมชนะเยอรมัน ก็อาจปรับมาเป็นแบ็กโฟร์ในเกมนี้
โดยเมสัน เม้าน์ท สตาร์จากเชลซี ที่กลับมามีชื่อสำรองตั้งแต่เกมก่อน หลังพ้นช่วงกักตัว ก็น่าจะได้ลงปั้นเกมรุกร่วมกับบูคาโย่ ซาโก้ และ ราฮีม สเตอร์ลิง
ส่วนแดนกลางก็คาดกันว่าจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ฟิตแล้ว มีลุ้นเบียดเดแคลน ไรซ์ ลงตัวจริงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในรายของแฮร์รี่ แม็กไกวร์, คัลวิน ฟิลลิปส์, ฟิล โฟเด้น และ ไรซ์ 4 แข้งที่ติดคาดโทษใบเหลืองต้องระวังตัว เพราะหากโดนเพิ่มก็จะติดโทษแบนในรอบรองฯทันที หากเข้ารอบสำเร็จ
ทีมสิงโตจะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 นายทวารได้แก่จอร์แดน พิคฟอร์ด แนวรับประกอบไปด้วยไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และ ลุค ชอว์
แดนกลางจอร์แดน เฮนเดอร์สันจะคุมเกมร่วมกับคัลวิน ฟิลลิปส์ ส่วนบูคาโย่ ซาก้า, เมสัน เม้าน์ท และ ราฮีม สเตอร์ลิงจะช่วยกันปั้นเกมสนับสนุนแฮร์รี่ เคน

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ – จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, คัลวิน ฟิลลิปส์ – บูคาโย่ ซาก้า, เมสัน เม้าน์ท, ราฮีม สเตอร์ลิง – แฮร์รี่ เคน

ผลการพบกัน 5 นัดหลังสุด
วัน/เดือน/ปี รายการ ผลการแข่งขัน
11/09/13 คัดบอลโลก ยูเครน 0 – 0 อังกฤษ
12/09/12 คัดบอลโลก อังกฤษ 1 – 1 ยูเครน
20/06/12 ยูโร อังกฤษ 1 – 0 ยูเครน
10/10/09 คัดบอลโลก ยูเครน 1 – 0 อังกฤษ
02/04/09 คัดบอลโลก อังกฤษ 2 – 1 ยูเครน

บทวิเคราะห์ของเกม

ยูเครนเป็นอีก 1 เซอร์ไพรส์ประจำทัวร์นาเม้นต์ เข้ารอบมาแบบไม่มีใครคาดคิด ซึ่งยิ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้พวกเขาได้ไม่น้อย แต่ปัญหาน่าอยู่ที่สภาพทีมที่สะบักสะบอมเหลือเกินมาจากกับสวีเดน ส่วนสิงโตคึกสุดๆแน่นอน หลังฝ่าด่านคู่ปรับตัวฉกาจอย่างเยอรมันมาได้ แถมขุมกำลังก็พร้อมสุดๆด้วย เทียบกันแล้วต้องยอมรับว่าอังกฤษดูดีกว่ามาก แม้เจอกันช่วงหลังจะไม่ค่อยชนะยูเครนก็ตาม แต่เกมนี้เชื่อว่าจะแตกต่างออกไป โมเมนตัมสิงโตกำลังมา เกมรุกก็จัดจ้านและหวังผลได้มากกว่าชัดเจน น่าจะบดเอาชนะไปได้ในที่สุด

ผลการแข่งขันที่คาด:  ยูเครน แพ้ อังกฤษ 0-2