ชลบุรี เอฟซี
“ฉลามชล”ชลบุรี เอฟซี ของ”โค้ชเตี้ย”สะสม พบประเสริฐ กุนซือใหญ่รั้งอันดับ 7 ของตาราง มี 19 คะแนน โดยมีแต้มเท่ากับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง ทรู แบงค็อก โดย”ฉลามชล”ในนัดที่ผ่านมา บุกไปพ่ายจ่าฝูง “บีจี ปทุม ยูไนเต็ด” 1-2 ส่วนวันเสาร์นี้ ชลบุรี เอฟซี ต้องเจอกับยักษ์ใหญ่อีกครั้ง ในการเปิดบ้านฟัดกับ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ต้องจับตามองว่า กองหน้าจอมเก๋าอย่าง “ลีซอ – ธีรเทพ วิโนทัย” ที่เพิ่งคว้าชัยชนะในสังเวียนมวย 10 Fight 10 และไม่ได้ลงเล่นนัดที่ผ่านมา นัดนี้จะได้รับโอกาสโชว์ฟอร์มในสนามหรือไม่ แถมเกมนี้ยังจะไม่มี แฮริสัน ไคออน แนวรุกแซมบ้าที่โดนใบแดงไล่ออกจากเกมล่าสุดทำให้ติดโทษแบนทันที ขณะที่รายของ คาซูโตะ คูชิดะ มิดฟิลด์ชาวญี่ปุ่นยังคงต้องเช็กความฟิตก่อนเกมนี้
การท่าเรือ เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี ภายใต้การนำทัพของ”โค้ชอู๊ด”สระราวุฒิ ตรีพันธ์ หลังจากเข้ามาคุมทัพ ก็ทำผลงานได้สุดเฉียบ พาทีมชนะติดต่อกันมา 5 เกมรวด พา “สิงห์เจ้าท่า” มี 25 แต้มจาก 11 เกม รั้งอันดับที่ 3 ของตาราง เกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 4-0 ทำให้ตามหลังรองจ่าฝูง “สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด” เพียงแค่ 1 แต้มเท่า แต่แข่งน้อยกว่าถึง 3 นัด ถ้าหากครั้งนี้ท่าเรือเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ได้ก็จะแซงขึ้นไปรั้งอันดับสอง คว้าโควตาเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มของ ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 โดยอัตโนมัติ เกมนี้ยังไม่มี เฮแบร์ตี้ แฟร์นันเดส ที่ยังบาดเจ็บ รวมถึงรายของ เนลสัน โบนีญ่า กองหน้าที่มีอาการบาดเจ็บอีกครั้ง ยังคงต้องรอดูอาการ ขณะที่ตัวหลักอย่าง วรวุฒิ นามเวช , เควิน ดีรมรัมย์ , โก ซุล กิ , ศิวกร จักขุประสาท , บดินทร์ ผาลา และ เซอร์คิโอ ซัวเรส ที่ทำไปแล้ว 9 ประตู พร้อมออกสตาร์ตเป็นตัวจริง
โปรแกรม ไทยลีก
18:00 ระยอง เอฟซี VS สุโขทัย เอฟซี
18:00 ชลบุรี เอฟซี VS การท่าเรือ เอฟซี
18:30 สุพรรณบุรี เอฟซี VS ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
