ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ที่น่าสนใจสุดในค่ำคืนนี้ หนีไม่พ้นเกมบิ๊กแมตช์ ณ สังเวียนแข้ง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะดวลกับ เชลซี ซึ่งทาง “ปีศาจแดง” ก็มุ่งมันที่จะคว้าชัยชนะต่อเนื่อง หลังเกมล่าสุดบุกไปอัด นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 4-1 ขณะที่ “สิงห์บลูส์” ก็หวังที่จะกลับมาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ หลังสุดสัปดาห์ก่อนทำได้แค่เปิดบ้านเจ๊า เซาธ์แฮมป์ตัน 3-3 โดยมาเสียประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ และนี่คือเกร็ดน่าสนใจเล็กๆ น้อยๆ ก่อนเกม

เฮด-ทู-เฮด
 – หาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะได้ ก็จะกลายเป็นครั้งแรกของพวกเขานับตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1965 (ยุคกุนซือ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้) ที่ชนะ เชลซี ในลีกได้ 3 นัดติด 
 – เชลซี บุกไปเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ได้มา 7 นัดติด (เสมอ 4, แพ้ 3) ซึ่งถือเป็นการคว้าชัยเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด์ ไม่ได้ยาวนานสุดของพวกเขา นับตั้งแต่ที่เคยไร้ชัย 16 นัดติด ช่วงระหว่างเดือนกันยายน ปี 1920 ถึง เดือนมกราคม ปี 1957
 – อย่างไรก็ตาม เชลซี เป็นเพียงสโมสรเดียวที่มีสถิติชนะมากกว่าแพ้ ในการดวลกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค พรีเมียร์ลีก (เชลซี ชนะ 18 ครั้ง, แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 17 ครั้ง)

 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
 – หากแพ้เกมนี้ ก็จะถือเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร ที่ออกสตาร์ตเกมลีก 3 นัดแรกที่บ้านของฤดูกาล และแพ้รวด โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 1930 ซึ่งซีซั่นนั้น (1930/31) “ปีศาจแดง” จบด้วยการครองบ๊วย
 – หนล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 3 นัดติด เกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1979
 – ถ้าไม่ชนะเกมนี้ ก็จะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ชนะเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 5 นัดติด (รวม 2 นัดจากซีซั่นที่แล้ว) ซึ่งจะกลายเป็นสถิติใหม่ของสโมสรทันที
 – บรูโน่ แฟร์นันด์ส จอมทัพเลือดฝอยทอง มีส่วนร่วมกับการทำประตูถึง 20 ลูก (ยิง 11, แอสซิสต์ 9) จากการลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก 18 นัด ซึ่งเป็นสถิติที่เหนือกว่าผู้เล่น “ปีศาจแดง” ทุกคน นับตั้งแต่ที่เขาลงเล่นนัดแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 
 – มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าความเร็วสูง ทำไปถึง 4 ประตู จาก 3 เกมหลังสุดที่เจอกับ เชลซี (รวมทุกรายการ) ซึ่งก็รวมถึงการเหมาสองตุงในเกมเปิดซีซั่นก่อน แมนฯ ยูไนเต็ด ไล่ต้อน “สิงห์บลูส์” 4-0
 – นอกจากนี้กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีสถิติคุมทีมชนะ 4 จาก 6 นัดที่เจอกับ เชลซี (เสมอ 1, แพ้ 1)

 เชลซี 
 – เชลซี เสมอ 4 จาก 8 เกมที่ลงเตะรวมทุกรายการในซีซั่นนี้ (ชนะ 3, แพ้ 1)
 – “สิงห์บลูส์” คว้าชัยได้ถึง 5 ครั้ง จากการลงเตะเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก 6 นัดแรกยุคกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทว่า 15 นัดหลังจากนั้น พวกเขาเก็บชัยชนะได้แค่ 5 หน (เสมอ 4, แพ้ 6)
 – เชลซี ยุค แลมพาร์ด เสียประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ไปถึง 63 ลูก จากการลงเตะ 43 นัด โดยเฉลี่ยตกนัดละ 1.5 ลูก ซึ่งถือเป็นเรตที่เลวร้ายที่สุดเหนือกุนซือ เชลซี ทุกคนในประวัติศาสตร์สโมสร (นับเฉพาะกุนซือที่คุมถาวร)
 – นอกจากนี้ นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว เชลซี เสียประตูเกมเยือนในศึก พรีเมียร์ลีก ไปแล้วถึง 42 ลูก ซึ่งมากกว่าทุกทีมในลีก 
 – นับเฉพาะปี 2020 มีเพียงแค่ อาร์เซน่อล (15 แต้ม) เท่านั้น ที่ทำคะแนนหลุดมือจากสถานการณ์ที่กำลังจะชนะ มากกว่า เชลซี (13 แต้ม)
 – นับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาลที่แล้ว ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกเลือดเบียร์ ทำประตูในเกมลีกไปแล้วถึง 30 ลูก ซึ่งในบรรดา 5 ลีกใหญ่ยุโรป เขาเป็นรองเพียงแค่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค), ชิโร่ อิมโมบิเล่ (ลาซิโอ) และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (ยูเวนตุส) เท่านั้น