บรูโน่ แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์คนดังของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก้มหน้ารับ ไม่รู้สึกว่าเท้าโดนบอลสักนิดในจังหวะที่ทีมได้ประตู พร้อมเผยว่าสุดแฮปปี้ที่แฟนบอลกลับมาชมเกมในสนามกันได้แล้ว

บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าตนไม่รู้สึกว่าเท้าสัมผัสโดนบอลเลยในชอตที่ทีมของตนได้ประตู ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ “ปีศาจแดง” เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกับ ฟูแล่ม 1-1 เมื่อวันอังคารที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ในนัดดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ดาบิด เด เคอา เตะเปิดเกมขึ้นมาก่อนที่บอลจะพุ่งไปอยู่แถวจุดที่ บรูโน่ ยืนอยู่ แล้วจากนั้นบอลก็ไปถึง เอดินสัน คาวานี่ ซึ่งดาวเตะชาวอุรุกวัยก็ยิงแบบสุดสวยเป็นระยะ 40 หลาเข้าประตู

ทั้งนี้ ฟูแล่ม มองว่าที่จริงจังหวะนี้ควรจะเป็นจังหวะล้ำหน้า เพราะตอนที่บอลออกจากเท้าของ เด เคอา นั้น คาวานี่ ยืนอยู่ในจุดที่ล้ำหน้า แต่ทีมงานวีเออาร์มองว่ามันควรเป็นประตูเพราะบอลไปโดนเท้าของ บรูโน่ ก่อน ซึ่งตอนนั้น คาวานี่ ถอยลงมาอยู่ในไลน์ที่ไม่ล้ำหน้าพอดี อย่างไรก็ตาม หลังจากจบเกมไปแล้ว บรูโน่ ก็ออกมาบอกเองว่าเท้าของตนไม่ได้สะกิดโดนบอลเลย นั่นหมายความว่ามันควรจะเป็นจังหวะล้ำหน้านั่นเอง

 

“พูดกันตามตรงนะ ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองโดนบอลเลย กรรมการบอกว่าเท้าของผมไปสะกิดโดนบอล แต่เอาจริงๆ แล้วผมก็ไม่แคร์หรอก ผมพูดอยู่เสมอว่าประตูที่สำคัญที่สุดคือลูกที่เข้าไปนอนในก้นตาข่าย มันไม่สำคัญหรอกว่าใครจะเป็นคนยิงได้หรือใครที่ทำแอสซิสต์ได้” ดาวเตะชาวโปรตุกีส ระบุ

บรูโน่ เสริมว่ารู้สึกดีใจที่ในเกมนี้แฟนบอลกลับมาชมเกมในสนามได้แล้ว แต่ก็บอกด้วยว่าเสียดายที่ไม่สามารถเก็บ 3 แต้มเพื่อแฟนบอลได้ “มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เรารู้ดีว่าแฟนบอลมีความสำคัญกับเกมฟุตบอลมากแค่ไหน ดังนั้นมันเลยเป็นเรื่องดีที่ได้พวกเขากลับมาชมเกมกันในสนาม แต่เราก็ไม่สามารถมอบชัยชนะให้กับพวกเขาตามที่พวกเขาต้องการได้ วันนี้เราไล่กดดันอีกฝ่ายหนักมาก เราพยายามทำประตูกันหลายครั้งแต่บอลมันก็ไม่ยอมเข้าประตู อย่างไรก็ตาม นั่นก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในบางครั้งอยู่แล้ว เราจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอย่างหนักแล้วมีสมาธิกับนัดต่อไป”