สัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เขียนปันใจให้สนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกไปพอสมควร

มาร์ค เซลบี้ ใช้ความเขี้ยวเคี่ยว ฌอน เมอร์ฟี่ จนสิ้นสภาพผู้ท้าชิงแชมป์โลก ปาดหน้าเค้กคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 4 ให้กับตัวเอง ด้วยสกอร์ 18-15 เฟรม

ที่น่าสนใจไม่ใช่สไตล์การเล่นของ เซลบี้ แน่ ๆ ยิ่งถ้าไม่ติดตามวงการสอยคิวน่าจะยิ่งไม่ต้องการความเข้าใจใด ๆ

แต่ถ้าบอกว่า เมื่อ เซลบี้ ได้แชมป์โลก แล้วอานิสงส์มันจะเลี้ยวมาถึงบ้านเกิดของเขาด้วยล่ะ?

น่าสนใจแน่ ๆ

เพราะ “เจสเตอร์ ฟรอม เลสเตอร์” มาร์ค เซลบี้ เนี่ยเขาเกิดในเมืองเลสเตอร์ เป็นจิ้งจอกพันธุ์แท้ไม่ลูกผสม และก็รักบ้านเกิดชิบหายเลยด้วย

อานิสงส์ที่ว่าก็คือ ตลอด 3 ครั้งที่ เซลบี้ เป็นแชมป์โลกมาก่อนหน้านี้ เลสเตอร์ซิตี้ ก็ยิ่งใหญ่ครองหัตถาพิภพด้วยคำว่า แชมเปี้ยน ไปด้วย

ไล่ตั้งแต่ปี 2014 แชมป์โลกสมัยแรกของเขา เลสเตอร์ซิตี้ ในยุคที่สุกงอมสุดโคนของ เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา ผู้ล่วงลับ ขึ้นบัลลังก์คว้าแชมป์ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ อย่างเกรียงไกร

ถ้าเป็นรถแข่ง แนสคาร์ ก็เหมือนราวกับม้ามืดเลขแปลก ที่อยู่กับตัวเองอย่างแข็งแกร่งทุกโค้ง แล้วมาเอาชนะได้ด้วยความมุมานะล้วน

ปล่อยให้ตัวเต็งเลื่อนชั้นทั้งหลายไปชนกันในโค้งง่าย ๆ ของแลปสุดท้ายกันเอง

(อ้าว ไอ้ผู้เขียนไปกีฬาอื่นอีกแล้ว)

เลสเตอร์ เลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดของประเทศด้วยความแข็งแกร่งทุกเอเคอร์ ทั้งทีมฝ่ายฟุตบอล ฝ่ายบริหาร หรือฝ่ายสนับสนุนทั้งหมด-น่าจะได้อ่านเรื่องราวของคุณวิชัยกันไปพอสมควร

ขึ้นมาในฤดูกาลแรกกับ ไนเจล เพียร์สัน อาจจะไม่คลิกมากเท่าไหร่นัก

แต่ฤดูกาลต่อมา ที่มี เคลาดิโอ รานิเอรี่ กลายเป็นม้ามืดอีกครั้งด้วยการควบจิ้งจอกตัวเก่งทะยานขึ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้แบบสุดเหลือเชื่อ

และปี 2016 สิ้นสุดคำว่าแชมป์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ พ่อหนุ่มเจสเตอร์ ก็เดินถือถ้วยแชมป์โลกเข้าไปมั่วนิ่มอยู่ใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม กับเขาด้วย

เพราะเขาคว้าแชมป์โลกได้อย่างยิ่งใหญ่เช่นกัน เอาชนะไต้ก๋งจีนที่ทะลุเข้ามาชิงชนะเลิศอย่าง ติง จุ้น ฮุย ไปได้ด้วยกลยุทธ์ล้วน ๆ

ทั้ง ๆ ที่ ติง จุ้น ฮุย นับว่าเป็นของสดมากในห้วงเวลานั้น ตบหน้ายอดนักสอยคิวทั่วโลกแดดิ้นก่อนจะมาถึงรอบชิงถ้วย

และในฤดูกาลต่อมา เซลบี้ ป้องกันแชมป์โลกสอยคิวได้อีกครั้ง หลังจากชมภาพยนตร์ที่มี “น้าค่อม” อาคม ปรีดากุล แสดงเป็นตัวละครหลักในเรื่อง ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก-ไม่เกี่ยว

เพียงแค่จะบอกว่า เซลบี้ ควบสองล้อซิ่งแซงกลับจากตามหลัง จอห์น ฮิกกิ้นส์ อยู่ 4-10 กลับมาคว้าแชมป์ได้เฉยเลย เข้าวินชัด ๆ

แมัปีเดียวกันของ เลสเตอร์ ซิตี้ จะไม่ได้แชมป์ใด ๆ แต่พวกเขาก็สร้างประวัติศาสตร์ ไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้เหมือนกัน

เกมนัดที่สอง แอตเลติโก มาดริด ได้ ซาอูล นิเกซ ยิงประตูเบิกร่องใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ตั้งแต่หัววัน ทำให้พวกเขาเล่นเกมถนัดของตัวเองได้ยาก เพราะมีประตูตามหลังถึง 2 ลูก แถมเป็นอเวย์โกลอีก

กลับมาที่ปีนี้ 2020/21

มาร์ค เซลบี้ เอาถ้วยแชมป์โลกกลับจาก ครูซิเบิ้ล เธียเตอร์ ในเชฟฟิลด์ ไปตั้งไว้ที่เลสเตอร์ รอเพียงให้ สุนัขจิ้งจอกของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เอาแชมป์มาตามนัด

แชมป์ เอฟเอ คัพ ที่สโมสรหวังว่าจะนำไปส่งความเคารพต่ออดีตบิ๊กบอสผู้ล่วงลับ

สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีก ยังห่างกับกลุ่มที่จะไม่ได้ไปถ้วยใหญ่ยุโรปอยู่ถึง 5 แต้ม นั่นหมายความว่าพวกเขาเป็นต่ออยู่ถึง 2 แมตช์อย่างน้อย ๆ พ่วงด้วยผลต่างประตูได้-เสียอีกนิดหน่อย

ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า เซลบี้ กำลังทำให้ เลสเตอร์ มีหวังถึงแชมป์อีกครั้ง

เหลือเพียง เชลซี ที่เป็นหนามยอกอกซี่สุดท้ายที่ขวางอยู่ อีก 2 สัปดาห์หน้าเท่านั้น

คอลัมน์ชิ้นนี้เขียนก่อนที่ เชลซี จะลงสนามปะทะกับ รีล มาดริด เพื่อแย่งที่นั่งบนเครื่องบินที่กำลังมุ่งหน้าไป อิสตันบูล เมืองไก่งวงตุรกี

ถ้า เชลซี เจออภินิหารซีดานเทิร์น เบิร์นหน้าจนเสียรูป จอดป้ายยูซีแอลไว้แค่นั้น

บางที เซลบี้ ที่ร้องเพลง วี อาร์ เดอะ แชมเปี้ยน ตั้งแต่วันนี้ อาจจะเก้อไปก่อน

เป็นกำลังใจให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มีผู้บริหารเป็นคนไทยครับ

โชว์อิทธิฤทธิ์การบริหารสโมสรให้ประจักษ์ไปทั่วโลก จนแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด บางส่วนอาจจะอิจฉาอยู่ก็ได้ (แซว)

ก็ขอให้ท่านที่อยู่บนฟ้า ได้ของขวัญสุดวิเศษอีกสักชิ้นส่งขึ้นไปบ้าง

หลังจากได้อยู่ในวงฟังมุกตลกจาก น้าค่อม ไปแล้วน่ะก็นะ