กลายเป็นทีมที่ได้รับคำชมว่าเล่นฟุตบอลได้มันส์ที่สุดมน ยูโร ครั้งนี้สำหรับทีมชาติ อิตาลี ที่สองนัดที่ผ่านไฉไลสุดๆเอาชนะคู่แข่งสองนัดพร้อมกระซวกไปถึง 6 ประตูด้วยกันผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้เป็นที่เรียบร้อยพร้อมกับถูกยกว่าเป็นทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์ ยูโร เหมือนกัน

อิตาลี ในยุคของ มันชินี่ บอกเลยว่านั้นเปลี่ยนแปลงสุดๆภาพจำของทีมชาติ อิตาลี คือจะเล่นเกมรับเหนียวแน่นไม่เสียประตูไว้ก่อนพร้อมกับโยนบอลไปข้างหน้าให้กองหน้าทำประตูเรียกง่ายๆ ตีหัวเข้าบ้านนั้นเอง แต่ มันชินี่ เข้ามายกระดับ อิตาลี ไปอีกขั้นเปลี่ยนแปลงสไตล์กลายเป็นทีมที่เน้นเกมรุกบุกสนุกมีการเข้าทำหลากหลายเพรสซิ่งกระจุยและเล่นบอลกับพื้นเป็นหลัก

อิตาลี ชุดนี้จะเน้นบิ้วท์อัพจากแดนตัวเองจะไม่เตะบอลทิ้งข้างหน้าไปแบบมั่วซั่วแต่จะค่อยเซ็ทบอลเข้าทำโดยกองกลางสามคนอย่าง จอร์จินโญ่ , โลคาเตลลี่ , บาเรล่า คอยรับบอลคอยเคลื่อนที่พาบอลไปข้างหน้าสร้างสรรค์เกมได้อย่างมองตารู้ใจขณะที่แบ็คสองฝั่งนั้นเติมเกมขึ้นสูงบุกกระจายโดยเฉพาะทางฝั่งซ้ายอย่าง สปินาโซล่า ที่เล่นเหมือนปีกลากเลื้อยมันส์จริง

ขณะที่สามแนวรุกอย่าง อินซินเญ่ , เบลาดี้ และ ชิโร่ อิมโมบิเล่ จะคอยไล่เพรสซิ่งจากแดนพร้อมการประสานที่รู้ใจและยิงประตูคมกริบ นอกจากนี้ทีมเวิร์คของ อิตาลี ชุดนี้นั้นดีสุดยอดถึงแม้ทีมจะไม่มีซุปเปอร์สตาร์เหมือนสมัยก่อนแต่พวกเขายังโคตรอันตรายจริงๆถึงตอนนี้ อิตาลี ในยุค มันชินี่ สร้างสถิติสุดน่าทึ่งหลายอย่างเหลือเกิน

อิตาลี ยิงประคู่แข่งไปแล้ว 80 ประตู จาก 29 นัด เฉลี่ยหนึ่งนัด อิตาลี ยิงประตูคู่แข่งเกือบสามประตูเรียกได้ว่าแนวรุกโหดเกินบรรยายถ้าใครได้ดู อิตาลี เล่นบอกเลยว่าเพลินและสนุกสุดๆ

ขณะที่เกมรับนั้นก็แข็งแกร่งไม่แพ้กันเสียไปเพียงแค่ 14 ประตู จาก 34 นัด คลีนชีต 22 นัด จาก 29 เกมหลังสุด นอกจากนี้ อิตาลี ยังคว้าชัยชนะรวดใน 10 เกมหลังสุด โดยไม่เสียแม้แต่ประตูเดียว เรียกได้ว่ารุกดีรับยังดีอีกต่างหาก

จนถึงตอนนี้ อิตาลี ไม่แพ้ใคร 29 นัดติดต่อกันแล้วเรีกยได้ว่าพวกเขาแข็งแกร่งจริงๆถึงตอนนี้พวกเขาท้าชิงแชมป์ ยูโร อย่างเต็มตัวโดยไม่กลัวใครทั้งนั้นและพวกเขาพร้อมเปิดเกมรุกใส่ทุกทีมจนตอนนี้ อิตาลี คือขวัญใจแฟนบอลในยูโรครั้งนี้จริงก็ดูกันว่าพวกเขาจะไปได้ถึงแชมป์หรือไม่ติดตามกัน