เอฟเวอร์ตัน

คาร์โล อันเชล็อตติ พาทีม ทอฟฟี่สีน้ำเงิน โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการคว้าชัยชนะ 4 เกมติดต่อกัน โดยเมื่อคืนวันเสาร์บุกไปชนะ เชฟฯยูไนเต็ด 1-0 นั่นทำให้พวกเขาขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงได้ด้วย

ทอฟฟี่ยังประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บพอสมควรโดยในแนวรับยังคงไม่มี ลูก้าส์ ดีญ แบ็กซ้ายตัวเก่งที่เจ็บข้อเท้าเช่นเคย

ขยับไปแดนกลางและหน้า ฟาเบียน เดล์ฟ , อัลลัน , ฮาเมส โรดริเกซ (น่อง) และ ริชาร์ลิซอน จะลงสนามไม่ได้ทั้งหมด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม : จอร์แดน พิคฟอร์ด – เมสัน โฮลเกต, เยอร์รี่ มิน่า, ไมเคิ่ล คีน, เบน ก็อดฟรี่ย์ – อับดูลาย ดูกูเร่, ทอม เดวิส – อเล็กซ์ อิโวบี้, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, แบร์นาร์ด – โดมินิก คัลเวิร์ต-เลวิ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีม เรือใบสีฟ้า เต็ง 2 เก็บแต้มในลีกมาได้เรื่อยๆหลังจากแพ้ สเปอร์ส 0-2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน พวกเขาก็ไม่แพ้ใครมา 10 เกมติดต่อกัน ล่าสุดเปิดบ้านทุบ นิวคาสเซิ่ล 2-0 พาตัวเองขึ้นมาอยู่อันดับ 5 หลังจบเกมสวันเสาร์

แมนฯซิตี้ จะยังไม่มี ไคล์ วอล์คเกอร์ และ กาเบรียล เชซุส 2 กำลังสำคัญที่ติดโควิด-19 ต้องอยู่ระหว่างการกักตัว

ทีมยังจะต้องลุ้นความฟิตของมิดฟิลด์อย่าง อิลคาย กุนโดกัน ที่เดี้ยงจากเกมชนะสาลิกาดงด้วย โดยเชื่อว่าด้วยขนาดทีมที่ใหญ่ เป๊ป น่าจะมีการโรเตชั่นผู้เล่นในบางตำแหน่งด้วย เพราะต้องเตะ 2 นัดใน 3 วัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม: เอแดร์ซอน โมราเอส – จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, เนธาน อาเก้ – ชูเอา กันเซโล่, โรดรี้, ฟิล โฟเด้น – ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์, ราฮีม สเตอร์ลิง – แฟร์ราน ตอร์เรส