หนังม้วนเดิมมา 4 ฤดูกาลติดต่อกันสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผงาดคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ หรือ ลีก คัพ ด้วยการเฉือนสเปอร์สไป 1-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา

ไก่เดือยทอง มาสู้ในรูปแบบชนิดที่ว่าเป็นรองก่อนเกมการแข่งขันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพผู้เล่น , ฟอร์มการเล่น และที่สำคัญพวกเขาไม่มีกุนซือใหญ่อย่างเป็นทางการ หลังบอร์ดบริหารปลด โชเซ่ มูรินโญ่ ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ 6 วัน

20 ล้านปอนด์ คือ ราคาที่สเปอร์สต้องจ่ายเมื่อทำการปลดสเปเชียลวันก่อนสิ้นสุดสัญญา นี่ไม่เกี่ยวกับการที่เขาหักหน้าทีมเรื่อง ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก แต่เกี่ยวกับผลงานของทีมล้วน ๆ ที่ทำให้ประธานแดเนี่ยล เลวี่ ไม่พอใจ

แต่ราคาที่สเปอร์สจ่าย มันมีมากกว่านั้น ในเมื่อเขาปลดกุนซือผู้มากประสบการณ์และผู้ประสบความสำเร็จที่สุดคนนึงของโลก ก่อนเจอทีมอันตรายที่สุดทีมนึงของโลก คำตอบแทบจะรู้ก่อนเกมอยู่แล้วว่าใครควรจะเป็นแชมป์สำหรับนัดชิงชนะเลิศ

การปลด มูรินโญ่ อาจทะท้อนแง่มุมของบอร์ดบริหารได้ว่า พวกเขาอาจไม่ได้พอใจเรื่องของการเป็นแชมป์ระดับเมเจอร์รายการนี้ ซึ่งเป็นถ้วยรางวัลล่าสุดของสเปอร์สที่เคยได้ ต้องย้อนไปในฤดูกาล 2007-2008

คือมันเป็นถ้วยมิคกี้ เม้าส์ หน่ะ ตามที่ใคร ๆ เรียกกัน คือการคว้าแชมป์ถ้วยนี้ อาจเป็นตราประทับในเรื่องของความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเงินรางวัลทีมแชมป์แค่ 100,000 ปอนด์เท่านั้น

ทั้งหมดคือราคาที่ต้องจ่ายสำหรับ สเปอร์ส ในการปลดกุนซือโปรตุกีส และแต่งตั้งไรอัน เมสัน ที่ยังไม่มีความพร้อมสำหรับการเป็นผู้จัดการทีมเต็มตัว

การจ่ายครั้งนี้ เพื่อการเริ่มใหม่ของสเปอร์ส เพราะพวกเขาหมดโอกาสไล่ล่าความสำเร็จแล้วในฤดูกาลนี้ หลังล่วง ยูโรป้า และ เอฟเอ คัพ ไปก่อนหน้านี้ เราคงได้เห็นการจ่ายครั้งใหม่เพื่อหาผู้จัดการทีมคนใหม่ที่มีฝีมือเข้ามา แต่เราก็คงไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า นักเตะซูเปอร์ สตาร์ ที่อยู่กับทีมตอนนี้ ยังจะค้าแข้งกับทีมต่อไปหรือไม่