ตัดเชือกเอฟเอคัพระอุ! ‘ฉลามชล’ ดวลแข้ง ‘ปราสาทสายฟ้า’ อีกคู่ ‘แข้งเทพ-กว่างโซ้ง’

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธีจับสลากประกบคู่การแข่งขันฟุตบอล “ช้าง เอฟเอ คัพ 2020” รอบรองชนะเลิศ โดยมี นายโรจนสิทธิ์ มีนิจสิน รองผู้อำนวยการโครงการกีฬาไทยเบฟ ไทยทาเลนท์ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง และตัวแทนผู้สนับสนุนจากโตโยต้า, แกรนด์สปอร์ต, วอริกซ์ รวมถึงตัวแทนจากสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด และทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เข้าร่วมด้วยที่สโมสรราชพฤกษ์ วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 5 เมษายน

ผลการจับสลากประกบคู่ปรากฏว่า “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี อดีตแชมป์ 2 สมัย จะโคจรมาพบกับ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ 4 สมัย ที่สนาม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ขณะที่อีกคู่ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ยังไม่เคยเป็นแชมป์ จะพบกับ “กว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ 2 สมัย ที่สนามบุณยะจินดา โดยทั้ง 2 คู่จะแข่งขันในวันที่ 7 เมษายน ซึ่งทีมชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และโควต้ารอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2022

นายจีระศักดิ์ โจมทอง ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ทีมชลบุรี เอฟซี กล่าวว่า แม้ผลงานของชลบุรีในลีกไม่ดี แต่บอลถ้วยรายการนี้เราเน้นเป็นพิเศษ โดยมาถึงรอบนี้แล้วทุกทีมต่างหวังคว้าแชมป์แน่นอน ซึ่งชลบุรีเองก็หวังคว้าแชมป์เช่นกัน เพราะบอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้ ส่วนสภาพความพร้อมของทีมจะต้องเช็กฟิต สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ และกฤษดา กาแมน ที่มีอาการบาดเจ็บ แต่จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เรนาโต้ เคลิช ปราการหลังที่ยืมตัวมาจากทีมบุรีรัมย์

ขณะที่ นายบริพัทธิ์ สูนรอด ผู้จัดการทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า ไม่กดดันที่ทีมเคยเป็นแชมป์ถึง 4 สมัย แต่ไม่ได้แชมป์มาแล้ว 4 ปี ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่ทำให้ในปีนี้เราหวังที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ ส่วนสภาพทีมมีนักเตะต่างชาติบาดเจ็บ 2 คน คือ ไมค่อน มาร์เกวส และดิเกา ส่วนคนอื่นพร้อมลงสนาม เชื่อว่านักเตะกำลังมีความมั่นใจหลังจากที่ทำทำผลงานได้ดีชนะมาหลายนัด

ขณะที่กติกาการแข่งขันในรอบนี้ ในเวลาปกติ แข่งขัน 90 นาที ครึ่งละ 45 นาที พักครึ่ง 15 นาที หากเสมอกันจะมีการต่อเวลาพิเศษ 30 นาที และหากเสมอกันอีกจะเป็นการยิงจุดโทษ โดยใช้การยิงแบบ ABAB

สำหรับโควต้านักกีฬาต่างชาติเป็น 3+1 (ต่างชาติ 3 + เอเชีย 1) โดยการเปลี่ยนตัวนักกีฬา สามารถเปลี่ยนตัวนักกีฬาสำรองได้ 5 คน และเปลี่ยนตัวสำรองเพิ่มได้อีก 1 คน ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ทั้งนี้ การแข่งขัน ช้าง เอฟเอ คัพ 2020 รอบรองชนะเลิศ จะมีขึ้นในวันที่ 7 เมษายน 2564 โดยผู้ชนะในรอบนี้ จะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2564 ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตต่อไป สำหรับทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และสิทธิ์ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2022